จากประสบการณ์จริง

เนื่องจากผมดูดบุหรี่มา ราวๆ 1 ปีเฉลี่ยราวๆ 3 ซอง/วัน  ถ้าวันไหนกินเหล้าก็คูณไปเลย 3 เท่าตัว  วันแรกที่เจอบุหรี่ไฟฟ้าตัวเป็นๆซึ่งเป็นของเพื่อนที่กำลังนั่งร่ำสุราอยู่ด้วยนั้น  บอกตรงๆครับผมเกิดความสงสัยก่อน แล้วก็ตามด้วยการทดลองดูด2-3คำ  สุดท้ายดันมีอคติบังตาเยอะไปหน่อย (คงเพราะไม่อยากปฏิเสธสิ่่งที่ตัวเองยอมรับมากกว่าสิบปีว่าแย่กว่าของใหม่ และอยู่ในมือเพื่อนอีก)   แถมอุตสาห์แหน็บเพื่อนไปว่าของปลอมว่ะ ของแท้สิถึงจะใช่  กุเอาเดิมๆดีกว่าวันต่อมาเพื่อนผมเลยลงทุนถึงขั้นซื้อชุดใหม่เป็นคู่มาให้ยืม ราคาราวๆ1300  มันขอให้ลองเปิดใจดูดดูซัก1-2วันก็ได้  แล้วจะรู้ว่าอะไรดีกว่า  ถ้าไม่ชอบค่อยคืนให้มันแล้ววันนั้นก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วครับ ผมจ่ายเงินค่าบุหรี่ไฟฟ้าชุดนั้นคืนให้เพื่อน และยังขอบใจมันจนถึงทุกวันนี้ก่อนนี้ผมไม่เคยวางแผนหรือพยายามเลิกบุหรี่มาก่อน อยู่ดีๆก็เลิกซะงั้น

santa_fb
สำหรับผม ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่าล้วงมีทั้งข้อดี ข้อเสียของมันเอง สิ่งอยู่ที่คุณจะเลือกจะทำไหม แต่ถ้าคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วแล้วเลิกบุหรี่ได้มันก็ดีกับตัวคุณเอง แต่ถ้าคุณซื้อบุหรี่ไฟ้านั้นมาแล้วคุณยังสูบบุหรี่แบบธรรมดา งั้นคุณอย่าซื้อมาเลยเพราะมันมีค่าเท่ากันกับคุณดูดหรือไม่ดูด แต่ถ้าคุณอยากเลิกจริงๆมันไม่สำคัญกับคิดของมันทดแทนบุหรี่ มันอยู่ที่ความตั้งใจของตัวคุณเองว่าคุณจะเลิกได้หรือไม่ แล้วคุณจะเลือกอะไรล่ะ?

ecig_resize

ใส่ความเห็น